จิตแพทย์แนะ “ก้าวข้าม” ความเห็นต่างการเมือง-ร่วมมือปฏิรูป

จิตแพทย์แนะ “ก้าวข้าม” ความเห็นต่างการเมือง-ร่วมมือปฏิรูป
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

นายกสมาคมจิตแพทย์ ระบุสังคมไทยไม่ได้ขัดแย้งรุนแรงอย่างที่เข้าใจ ความเห็นต่างทางการเมืองไม่ใช่ปัญหาถ้าไม่ใช้ความรุนแรง แนะแสวงหาจุดร่วมหันหน้าหากันผลักดันปฏิรูปประเทศแก้ปัญหาระยะยาว

น.พ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ นายกสมาคมจิตแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวในรายการ “ฝ่าวิกฤติประเทศไทย” ทางทีวีไทย ว่า ขณะนี้ไม่อยากให้นึกว่าคนส่วนใหญ่แยกข้างกัน เพราะการที่มีความเห็นแตกต่างกันนั้นไม่ใช่ปัญหา อย่าไปคิดว่าไม่มีทางออก น.พ.ยงยุทธกล่าวว่าจากข้อมูลที่มีอยู่มีเพียงประมาณ 20% เท่านั้นที่มีความรู้สึกหรือมีอารมณ์รุนแรงทางการเมือง ที่เหลือที่เป็นคนส่วนใหญ่ที่อาจจะเป็นสีเหลืองอ่อนๆ หรือสีแดงอ่อนๆ เขายังสามารถรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างได้ โดยไม่ต้องมีอารมณ์รุนแรง

คนส่วนใหญ่ที่มีวุฒิภาวะทางอารมณ์(EQ)ต้องช่วยกัน ต้องช่วยกันดึงเพื่อนๆ ญาติพี่น้อง ไม่ให้มีอารมณ์ที่รุนแรง เท่าที่สำรวจดูมีครอบครัวเพียง 2-3% ที่มีความเห็นต่างทางการเมืองแล้วพูดคุยกันไม่ได้ มากกว่า 20%ถึงแม้มีความเห็นแตกต่างแต่ก็พูดคุยกันได้ และที่เหลือไม่มีปัญหาความขัดแย้งกัน ซึ่งเป็นกลุ่มที่ใหญ่กว่ามาก ดังนั้นสังคมไทยไม่ได้มีความขัดแย้งรุนแรงอย่างที่เข้าใจ

การแก้ปัญหาสำหรับคนที่ยังมีความคิดที่รุนแรงอยู่ ในแง่บุคคลที่เป็นเพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง ก็ต้องรับฟังเขา แสดงความห่วงใย และพยายามอย่าให้เขามีอารมณ์ที่รุนแรงหรือใช้ความรุนแรง ในแง่ของสังคมที่มีปัจจัยพื้นฐาน มีการซ้ำเติม มีการกระตุ้น ก็ต้องร่วมกันผลักดันการปฏิรูปประเทศให้สำเร็จก็จะช่วยลดความขัดแย้งได้ใน ระยะยาว สังคมต้องยอมรับว่าความแตกต่างทางความคิดนั้นมีอยู่จริง แต่อย่าไปมองว่ามันเป็นปัญหาถ้าไม่ได้ใช้ความรุนแรง สังคมควรจะยอมรับและก้าวข้ามความต่างนี้ และร่วมกันเดินหน้าหาจุดร่วมกันในพัฒนาไปสู่อนาคตจะดีกว่า

นายไพโรจน์ พลเพชร ประธานคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน กล่าวว่าการที่มีการจัดการความจริงโดยคณะกรรมการอิสระเพื่อตรวจสอบและค้นหา ความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ที่มีอ.คณิต ณ นคร เป็นประธาน ตนเห็นด้วยที่จะต้องมีองค์กรอิสระจากรัฐ ที่มีความเป็นมืออาชีพเข้ามาดำเนินการ เพราะจะทำให้ทุกฝ่ายมีพื้นที่ในการอธิบายความจริง ได้อย่างมีเหตุมีผลมากขึ้น ซึ่งจะช่วยลดทอนความเกลียดชังในอนาคต

นายไพโรจน์กล่าวว่าตามกระบวนการค้นหาความจริงคณะกรรมการชุดอาจารย์ คณิตจะเป็นหลัก และคงมีหน่วยงานอื่นๆอีกหลายฝ่ายเข้าร่วมตรวจสอบ ถึงแม้ขณะนี้ยังมีเสียงคัดค้านหรือไม่ยอมรับคณะกรรมการชุดนี้ ก็คงต้องให้รอดูกระบวนการทำงานว่าถ้ามีการเปิดกว้างต่อทุกๆฝ่าย ก็จะช่วยลดความคลางแคลงใจลงไปได้

นายไพโรจน์ กล่าวว่าขณะนี้ยังมีผู้ถูกจับกุมคุมขังอยู่หลายคน ภายใต้การใช้พรก.ฉุกเฉิน ตนเห็นว่าควรจะยกเลิกได้แล้ว และควรจะมีการใช้กระบวนการยุติธรรมตามปกติ เพราะการใช้อำนาจในการจัดการกับความขัดแย้ง จะทำให้อีกฝ่ายมีความรู้สึกถูกไล่ล่า ต้องลดเงื่อนไขความขัดแย้ง และคืนภาวะปกติให้สังคม ซึ่งขณะนี้สังคมมีจุดที่เห็นพ้องร่วมกันคือมีความไม่เป็นธรรม มีความเหลื่อมล้ำกัน ควรจะใช้โอกาสนี้ในการแก้ไขปัญหาโดยปฏิรูปโครงสร้างต่างๆที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา ซึ่งการปฏิรูปจะช่วยให้ลดการเผชิญหน้าลดความขัดแย้งในระยะยาว
อย่างไรก็ตามมีหลายเรื่องที่รัฐบาลสามารถดำเนินการได้ทันทีเพื่อช่วย ลดความไม่เท่าเทียมกันลดความไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้น เช่น การปฏิรูปที่ดิน, การแก้ไขการเก็บภาษีที่ดิน, แก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกร

ใส่ความเห็น